Published On: พฤษภาคม 15, 2023Views: 360

ร่มกันฝนน่ารักๆ ที่เหมาะให้ลูกพกไปโรงเรียนช่วงหน้าฝน

วิธีเลือกร่มกันฝนที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ

ร่มกันฝนน่ารักๆ

อากาศในปัจจุบันช่างแปรปรวนจนทำให้เกิดการป่วยไข้ได้อยู่บ่อยๆ การจะออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องเช็คสภาพอากาศประจำวันเสมอ แต่ถึงยังไงอากาศก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ อากาศร้อนก็ร้อนมาก บทฝนจะตกก็ตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เด็กๆที่ต้องไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ หรือต้องเดินทางไปไหนเองบ้างในบางครั้ง คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กๆ กับสภาพอากาศที่แปรปรวนของบ้านเราด้วย ลองให้เด็กๆ พกร่มพับไว้ติดตัว เพื่อป้องกันสภาพอากาศอันแปรปรวนที่อาจมีผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะร่มกันแดดหรือร่มกันฝนก็จะมีแต่ผลดีกับน้องๆ เด็กๆ

วันที่ มาฟังข้อดีของการฝึกให้เด็กพกร่มพับเป็นไอเทมติดตัว นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพของน้องๆแล้ว ยังส่งผลดีด้านอื่นๆ อีกด้วย

  1. ป้องกันการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศที่แปรปรวน การพกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายคงที่มากขึ้นเพราะได้รับแรงปะทะจากอากาศภายนอกน้อยลง ยิ่งกับร่างกายของเด็กๆ ที่บอบบางและภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ การมีร่มอย่างร่มกันแดดหรือร่มกันฝนจะช่วยให้อากาศตกกระทบกับร่างกายของเด็กน้อยลง ทำให้อุณหภูมิร่างกายคงที่ไม่ป่วยง่าย
  2. บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย การฝึกกางร่ม พับร่ม หรือถือร่มพับเดินทางไปไหนต่อไหนนั้นช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือและกล้ามเนื้อแขนหลายส่วน ทำให้เด็กๆได้ขยับกล้ามเนื้อ ลองเปลี่ยนจากการกดโทรศัพท์ระหว่างการเดินทางเป็นการถือร่มพับเดินทางไปไหนมาไหน ก็คงจะดีไม่น้อย
  3. ฝึกความอดทนและความรับผิดชอบ การมอบของให้อยู่ในความดูแลของเด็กๆ นั้น เหมือนกันการมอบภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกเขา การได้พกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนและยังต้องพยายามรักษาไว้ไม่ให้หายนั้นเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้กับเด็กๆ อย่างมาก ในขณะเดียวกัน การถือร่มพับไปไหนมาไหนแต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ใช้ หรือไม่นั้นเป็นเหมือนการฝึกฝนในเรื่องความอดทนที่ดีทีเดียว เพราะถ้าหากเขาได้ใช้ร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่พกมา เด็กๆ ก็จะเรียนรู้ว่าถึงแม้ร่มจะหนักและต้องถือไปนู่นมานี่ ก็คุ้มที่จะใช้งานเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้การเลือกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนให้กับเด็กๆ ก็มีหลายปัจจัยให้ต้องคำนึงถึง เพราะแน่นอนว่าการพกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนนั้นมีผลกับตัวเด็กไม่เพียงแค่ข้อดี แต่หากเด็กๆได้ร่มที่อาจจะมีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากเกินไป ก็อาจจะเกิดโทษกับเด็กๆ ได้เช่นกัน

มารู้จักกับวิธีการเลือกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของน้องๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ประโยชน์จากร่มอย่างสูงสุดกันเลย

  1. ขนาดของร่ม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงเพราะหากร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของที่ผู้ปกครองให้เด็กๆใช้ มีขนาดใหญ่เกินตัวเด็ก หรือยาวจนยากจะพกใส่กระเป๋าหรือถือ อาจทำให้น้องๆ หมดสนุกกับการเดินทางได้ ควรเลือกใช้เป็นร่มพับที่มีขนาดเล็กสามารถพกใส่กระเป๋าได้สบายๆ หรือหากเป็นร่มยาว ก็ควรเลือกเป็นไซส์ 16-19 นิ้ว มีขนาดเล็ก พอดีถือกับมือของเด็กๆ อายุไม่เกิน 15 ปีนั่นเอง
  2. วัสดุและน้ำหนักของร่ม วัสดุต่างๆ ในการทำร่มนั้นส่งผลต่อน้ำหนักโดยรวมของร่มกันแดดหรือร่มกันฝนเสมอ ทั้งตัวโครงและผ้าใบที่เลือกใช้ ดังนั้นควรเลือกร่มที่มีวัสดุและน้ำหนักเบา ทำให้เด็กๆ ไม่ต้องเหนื่อยกับน้ำหนักที่มากเกินไปของร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่คุณแม่เลือกให้นั่นเอง
  3. การออกแบบที่เหมาะสมกับช่วงวัย ผ้าใบที่ใช้ทำร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของเด็กๆ นั้น ควรน่ารักและน่าจับใช้ เพื่อสร้างแรงจูงให้กับเด็กๆ ได้ตั้งแต่สายตา ยิ่งกับร่มพับที่กางออกมาแล้วมีลวดลายน่ารักที่น้องๆ ประทับใจ ยิ่งจะทำให้ร่มกลายเป็นไอเท็มโปรดที่พวกเขาไม่มีทางจะทำหาย การเลือกร่มพับสีสดใสเข้ากับช่วงวัยยังทำให้ผู้ที่พบเห็นเด็กๆ ที่กำลังใช้ร่มมีความสุขไปด้วย เหมือนกับการได้เห็นดอกไม้บานในวันที่ฝนตกก็ว่าได้

รู้แบบนี้ผู้ปกครองที่กำลังมองหาร่มกันแดดหรือร่มกันฝนสำหรับเด็กๆ อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยดังกล่าว เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของคุณ ร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่สามารถพกไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษได้อย่างน่ารักและมีประโยชน์ ทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กๆ ดีขึ้นมากมาย หรือถ้าหากคุณเป็นผู้ประกอบการที่กำลังมองหาร่มกันแดดหรือร่มกันฝนสำหรับเด็ก สามารถลองเข้ามาปรึกษากับฟลามิงโก้ โรงงานผลิตร่ม เพราะเราเป็นผู้นำด้านการผลิตร่มทุกแบบ สำหรับคนทุกวัย

ติดต่อ ฟลามิงโก้
โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย
Flamingo Umbrella
โทร. 084 361 9978
LINE ID: @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com

Published On: พฤษภาคม 15, 2023

ร่มกันฝนน่ารักๆ ที่เหมาะให้ลูกพกไปโรงเรียนช่วงหน้าฝน

วิธีเลือกร่มกันฝนที่ดีที่สุดสำหรับเด็กๆ

ร่มกันฝนน่ารักๆ

อากาศในปัจจุบันช่างแปรปรวนจนทำให้เกิดการป่วยไข้ได้อยู่บ่อยๆ การจะออกจากบ้านแต่ละทีก็ต้องเช็คสภาพอากาศประจำวันเสมอ แต่ถึงยังไงอากาศก็เปลี่ยนแปลงได้เสมอ อากาศร้อนก็ร้อนมาก บทฝนจะตกก็ตกลงมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย เด็กๆที่ต้องไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษ หรือต้องเดินทางไปไหนเองบ้างในบางครั้ง คุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองก็ควรคำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กๆ กับสภาพอากาศที่แปรปรวนของบ้านเราด้วย ลองให้เด็กๆ พกร่มพับไว้ติดตัว เพื่อป้องกันสภาพอากาศอันแปรปรวนที่อาจมีผลต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะร่มกันแดดหรือร่มกันฝนก็จะมีแต่ผลดีกับน้องๆ เด็กๆ

วันที่ มาฟังข้อดีของการฝึกให้เด็กพกร่มพับเป็นไอเทมติดตัว นอกจากจะช่วยรักษาสุขภาพของน้องๆแล้ว ยังส่งผลดีด้านอื่นๆ อีกด้วย

  1. ป้องกันการเจ็บป่วยจากสภาพอากาศที่แปรปรวน การพกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนช่วยให้อุณหภูมิของร่างกายคงที่มากขึ้นเพราะได้รับแรงปะทะจากอากาศภายนอกน้อยลง ยิ่งกับร่างกายของเด็กๆ ที่บอบบางและภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงเท่าผู้ใหญ่ การมีร่มอย่างร่มกันแดดหรือร่มกันฝนจะช่วยให้อากาศตกกระทบกับร่างกายของเด็กน้อยลง ทำให้อุณหภูมิร่างกายคงที่ไม่ป่วยง่าย
  2. บริหารกล้ามเนื้อส่วนต่างๆของร่างกาย การฝึกกางร่ม พับร่ม หรือถือร่มพับเดินทางไปไหนต่อไหนนั้นช่วยฝึกกล้ามเนื้อมือและกล้ามเนื้อแขนหลายส่วน ทำให้เด็กๆได้ขยับกล้ามเนื้อ ลองเปลี่ยนจากการกดโทรศัพท์ระหว่างการเดินทางเป็นการถือร่มพับเดินทางไปไหนมาไหน ก็คงจะดีไม่น้อย
  3. ฝึกความอดทนและความรับผิดชอบ การมอบของให้อยู่ในความดูแลของเด็กๆ นั้น เหมือนกันการมอบภารกิจอันยิ่งใหญ่ให้กับพวกเขา การได้พกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนและยังต้องพยายามรักษาไว้ไม่ให้หายนั้นเป็นการฝึกความรับผิดชอบให้กับเด็กๆ อย่างมาก ในขณะเดียวกัน การถือร่มพับไปไหนมาไหนแต่ไม่มั่นใจว่าจะได้ใช้ หรือไม่นั้นเป็นเหมือนการฝึกฝนในเรื่องความอดทนที่ดีทีเดียว เพราะถ้าหากเขาได้ใช้ร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่พกมา เด็กๆ ก็จะเรียนรู้ว่าถึงแม้ร่มจะหนักและต้องถือไปนู่นมานี่ ก็คุ้มที่จะใช้งานเป็นอย่างมาก

ทั้งนี้การเลือกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนให้กับเด็กๆ ก็มีหลายปัจจัยให้ต้องคำนึงถึง เพราะแน่นอนว่าการพกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนนั้นมีผลกับตัวเด็กไม่เพียงแค่ข้อดี แต่หากเด็กๆได้ร่มที่อาจจะมีขนาดใหญ่หรือมีน้ำหนักมากเกินไป ก็อาจจะเกิดโทษกับเด็กๆ ได้เช่นกัน

มารู้จักกับวิธีการเลือกร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของน้องๆ เพื่อให้เด็กๆ ได้ใช้ประโยชน์จากร่มอย่างสูงสุดกันเลย

  1. ขนาดของร่ม สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องคำนึงถึงเพราะหากร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของที่ผู้ปกครองให้เด็กๆใช้ มีขนาดใหญ่เกินตัวเด็ก หรือยาวจนยากจะพกใส่กระเป๋าหรือถือ อาจทำให้น้องๆ หมดสนุกกับการเดินทางได้ ควรเลือกใช้เป็นร่มพับที่มีขนาดเล็กสามารถพกใส่กระเป๋าได้สบายๆ หรือหากเป็นร่มยาว ก็ควรเลือกเป็นไซส์ 16-19 นิ้ว มีขนาดเล็ก พอดีถือกับมือของเด็กๆ อายุไม่เกิน 15 ปีนั่นเอง
  2. วัสดุและน้ำหนักของร่ม วัสดุต่างๆ ในการทำร่มนั้นส่งผลต่อน้ำหนักโดยรวมของร่มกันแดดหรือร่มกันฝนเสมอ ทั้งตัวโครงและผ้าใบที่เลือกใช้ ดังนั้นควรเลือกร่มที่มีวัสดุและน้ำหนักเบา ทำให้เด็กๆ ไม่ต้องเหนื่อยกับน้ำหนักที่มากเกินไปของร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่คุณแม่เลือกให้นั่นเอง
  3. การออกแบบที่เหมาะสมกับช่วงวัย ผ้าใบที่ใช้ทำร่มกันแดดหรือร่มกันฝนของเด็กๆ นั้น ควรน่ารักและน่าจับใช้ เพื่อสร้างแรงจูงให้กับเด็กๆ ได้ตั้งแต่สายตา ยิ่งกับร่มพับที่กางออกมาแล้วมีลวดลายน่ารักที่น้องๆ ประทับใจ ยิ่งจะทำให้ร่มกลายเป็นไอเท็มโปรดที่พวกเขาไม่มีทางจะทำหาย การเลือกร่มพับสีสดใสเข้ากับช่วงวัยยังทำให้ผู้ที่พบเห็นเด็กๆ ที่กำลังใช้ร่มมีความสุขไปด้วย เหมือนกับการได้เห็นดอกไม้บานในวันที่ฝนตกก็ว่าได้

รู้แบบนี้ผู้ปกครองที่กำลังมองหาร่มกันแดดหรือร่มกันฝนสำหรับเด็กๆ อย่าลืมคำนึงถึงปัจจัยดังกล่าว เพื่อเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกของคุณ ร่มกันแดดหรือร่มกันฝนที่สามารถพกไปโรงเรียน ไปเรียนพิเศษได้อย่างน่ารักและมีประโยชน์ ทำให้คุณภาพชีวิตของเด็กๆ ดีขึ้นมากมาย หรือถ้าหากคุณเป็นผู้ประกอบการที่กำลังมองหาร่มกันแดดหรือร่มกันฝนสำหรับเด็ก สามารถลองเข้ามาปรึกษากับฟลามิงโก้ โรงงานผลิตร่ม เพราะเราเป็นผู้นำด้านการผลิตร่มทุกแบบ สำหรับคนทุกวัย

ติดต่อ ฟลามิงโก้
โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย
Flamingo Umbrella
โทร. 084 361 9978
LINE ID: @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com