วิธีกำจัดกลิ่นอับ สำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่
ทำอย่างไรไม่ให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับ
ฤดูฝนกำลังมาเยือน ร่มกันฝนจึงเป็นไอเทมสำคัญที่ใช้ป้องกันตัวเองจากสายฝน แต่หลังจากใช้งานเสร็จ ร่มอาจจะเกิดกลิ่นอับได้ โดยเฉพาะร่มกันฝนขนาดใหญ่ หากไม่รีบกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝน จะทำให้กลิ่นอับส่งกลิ่นแรงขึ้นและจะกำจัดกลิ่นอับได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่หาที่ผึ่งยาก จะมีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น มาติดตามไปพร้อมกับ Flamingo Umbrella กันเลย
4 วิธีขจัดกลิ่นอับ สำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่
การกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ควรทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งาน เพราะหากปล่อยให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับนาน ๆ เพราะจะทำให้การกำจัดกลิ่นยากขึ้นและโครงร่มเกิดเชื้อราได้ ส่งผลให้ร่มมีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นจึงต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นโดยเร็วที่สุด โดยวิธีการกำจัดกลิ่นสำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่มีหลายวิธี โดยสามารถใช้สิ่งของใกล้ตัวที่ทุกบ้านมีอยู่แล้วเป็นตัวช่วยกำจัดกลิ่นอับได้
- เบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดาเป็นสารช่วยขจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน ๆ ที่ช่วยดับกลิ่นและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้
โดยวิธีการใช้เบคกิ้งโซดากำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ คือการนำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำอุ่นประมาณ 1 ถ้วย ต่อแป้งเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำร่มที่มีกลิ่นอับไปแช่ในน้ำที่ผสมเบคกิ้งโซดาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สารเคมีทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกและกลิ่นอับบนผืนผ้าของร่มได้อย่างทั่วถึง ก่อนล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดอีก 1 ครั้ง จากนั้นนำร่มไปผึ่งแดดจนแห้งสนิท ซึ่งวิธีการใช้เบคกิ้งโซดากำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่นั้นเป็นวิธีที่ได้ผลดีเยี่ยม เนื่องจากแป้งเบคกิ้งโซดาสามารถทำปฏิกิริยากับกรดไขมันและเกลือจากคราบสกปรกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เบคกิ้งโซดายังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของการเกิดกลิ่นอับอีกด้วย รวมถึงเป็นวิธีกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ เพราะไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือมีฤทธิ์รุนแรงเกินไป จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน สามารถใช้ขจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบใด ๆ - น้ำส้มสายชูผสมน้ำ
น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ที่สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อรา รวมถึงกำจัดกลิ่นได้ดี โดยผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 3 ถ้วย แล้วนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ไปแช่ในน้ำที่ผสมไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้กรดอะซิติกได้ทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกและกลิ่นอับบนผืนผ้าของร่ม ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีก 1 รอบ แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท
โดยน้ำส้มสายชูเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีองค์ประกอบของกรดอะซิติกที่สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียและเชื้อรา ตลอดจนขจัดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ออกจากผืนผ้าของร่มกันฝนได้ดี เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือมีฤทธิ์รุนแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความไวต่อสารเคมี หรือต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้น้ำส้มสายชูยังเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามบ้านเรือนทั่วไป จึงเป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกสบาย อย่างไรก็ตามแม้ว่าน้ำส้มสายชูจะเป็นสารที่มีฤทธิ์อ่อน แต่ก็ไม่ควรละเลยถึงความระมัดระวังเมื่อนำมาใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยเฉพาะกับดวงตาหรือบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล หากเกิดการสัมผัสโดยบังเอิญให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
นอกจากนี้ยังไม่ควรนำสารละลายน้ำส้มสายชูมาใช้กับร่มกันฝนที่ทำจากผ้าสีอ่อนหรือสีพาสเทล เนื่องจากอาจทำให้สีของผ้าซีดจางหรือเปลี่ยนไปได้ - สบู่เหลว
นอกจากเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูแล้ว สบู่เหลวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้สบู่เหลวชนิดที่มีกลิ่นหอมฟุ้ง จะสามารถช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้ผ้าร่มมีกลิ่นหอมสดชื่นหลังการซักล้างได้เป็นอย่างดี โดยขั้นตอนการใช้สบู่เหลวซักล้างร่มกันฝนขนาดใหญ่นั้น เริ่มจากการเลือกใช้สบู่ซักผ้าชนิดเหลวที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดกับผ้าร่ม จากนั้นนำสบู่เหลวมาละลายในน้ำอุ่นให้เข้ากัน ก่อนแช่ร่มกันฝนขนาดใหญ่ลงไปในสารละลายที่เตรียมไว้ ปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่งให้สารซักฟอกได้ซึมซับเข้าไปในเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง หลังจากนั้น จึงค่อย ๆ ขัดถูเบา ๆ บริเวณที่สกปรกหรือมีกลิ่นอับ โดยต้องระวังอย่าใช้แรงขัดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ เมื่อขัดถูเสร็จแล้วก็ล้างร่มด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อกำจัดตะกอนหรือคราบสารซักฟอกที่อาจจะตกค้างอยู่บนผืนผ้าของร่ม จากนั้นนำร่มไปผึ่งให้แห้งสนิทในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งการผึ่งร่มให้แห้งสนิทนับเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นอับก่อตัวขึ้นใหม่ รวมถึงยังช่วยยืดอายุการใช้งานของร่มให้ยาวนานขึ้นด้วย แม้การใช้สบู่เหลวในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนจะเป็นวิธีที่ได้ผลและปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการคือ ควรเลือกใช้สบู่เหลวที่มีคุณภาพดี ปราศจากสารเคมีหรือส่วนผสมที่อาจทำให้ผ้าร่มเสียหายได้ รวมทั้งการซักล้างด้วยวิธีการที่เหมาะสม โดยเฉพาะการไม่ใช้แรงขัดถูมากเกินความจำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับร่มกันฝนของคุณนั่นเอง - ผึ่งแดด
การนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่ผ่านการใช้งานมาผึ่งแดดให้แห้ง นับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝน แต่การนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ไปผึ่งแดดเพื่อกำจัดกลิ่นอับ จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อนำไปผึ่งแดดหลังจากใช้งานเสร็จได้ไม่นานเท่านั้น หากปล่อยให้ร่มมีกลิ่นอับนาน ๆ แม้จะนำไปผึ่งแดด ก็ไม่สามารถกำจัดกลิ่นอับได้ เพราะแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นอับได้เกาะตัวแน่นบนผืนผ้าของร่มแล้ว หากปล่อยให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับนาน ๆ ต้องใช้วิธีการดังข้อ 1 – 3 ในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่นอกจากการเลือกใช้ร่มให้เหมาะกับการใช้งานแล้ว การดูแลรักษาไม่ให้ร่มมีกลิ่นอับก็สำคัญ โดยเฉพาะร่มขนาดใหญ่ ดังนั้นลองนำวิธีที่ Flamingo Umbrella ไปใช้กันได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่มเกิดกลิ่นอับกวนใจการใช้งานร่มของคุณ
หากคุณสนใจสั่งผลิตร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถสั่งผลิตได้ที่ ฟลามิงโก้ โรงงานผลิตร่มทุกชนิด เรามีบริการผลิตร่ม ทั้งร่มสนาม ร่มพับ ร่มกันฝน ร่มแฟชั่น ร่มสำหรับเด็ก ไปจนถึงร่มกอล์ฟ ร่มสำหรับใช้เป็นของที่ระลึก ร่มงานศพ ฯลฯ
วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นวัสดุระดับร่ม Premium เราพร้อมสร้างสรรค์สินค้าที่ได้มาตรฐานและเป็นที่พอใจแก่ลูกค้าด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ โดยร่มที่เราผลิตจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นนำสมัยมีคุณภาพสูง สามารถสั่งผลิตร่มง่าย ๆ เพียงเลือกแบบ สี และขนาดร่ม และรอรับสินค้าได้ภายใน 3 – 7 วัน
สนใจสั่งผลิตร่มกันฝนขนาดใหญ่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Flamingo Umbrella โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย
โทร. 084 361 9978
LINE ID : @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com
วิธีกำจัดกลิ่นอับ สำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่
ทำอย่างไรไม่ให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับ
ฤดูฝนกำลังมาเยือน ร่มกันฝนจึงเป็นไอเทมสำคัญที่ใช้ป้องกันตัวเองจากสายฝน แต่หลังจากใช้งานเสร็จ ร่มอาจจะเกิดกลิ่นอับได้ โดยเฉพาะร่มกันฝนขนาดใหญ่ หากไม่รีบกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝน จะทำให้กลิ่นอับส่งกลิ่นแรงขึ้นและจะกำจัดกลิ่นอับได้ยากขึ้น ดังนั้นจึงต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่หาที่ผึ่งยาก จะมีวิธีไหนที่น่าสนใจบ้างนั้น มาติดตามไปพร้อมกับ Flamingo Umbrella กันเลย
4 วิธีขจัดกลิ่นอับ สำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่
การกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ควรทำความสะอาดทันทีหลังการใช้งาน เพราะหากปล่อยให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับนาน ๆ เพราะจะทำให้การกำจัดกลิ่นยากขึ้นและโครงร่มเกิดเชื้อราได้ ส่งผลให้ร่มมีอายุการใช้งานสั้นลง ดังนั้นจึงต้องหาวิธีกำจัดกลิ่นโดยเร็วที่สุด โดยวิธีการกำจัดกลิ่นสำหรับร่มกันฝนขนาดใหญ่มีหลายวิธี โดยสามารถใช้สิ่งของใกล้ตัวที่ทุกบ้านมีอยู่แล้วเป็นตัวช่วยกำจัดกลิ่นอับได้
- เบคกิ้งโซดา
เบคกิ้งโซดาเป็นสารช่วยขจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นด่างอ่อน ๆ ที่ช่วยดับกลิ่นและฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้
โดยวิธีการใช้เบคกิ้งโซดากำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ คือการนำเบคกิ้งโซดาผสมกับน้ำอุ่นประมาณ 1 ถ้วย ต่อแป้งเบคกิ้งโซดา 1 ช้อนโต๊ะ แล้วนำร่มที่มีกลิ่นอับไปแช่ในน้ำที่ผสมเบคกิ้งโซดาประมาณ 30 นาที เพื่อให้สารเคมีทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกและกลิ่นอับบนผืนผ้าของร่มได้อย่างทั่วถึง ก่อนล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดอีก 1 ครั้ง จากนั้นนำร่มไปผึ่งแดดจนแห้งสนิท ซึ่งวิธีการใช้เบคกิ้งโซดากำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่นั้นเป็นวิธีที่ได้ผลดีเยี่ยม เนื่องจากแป้งเบคกิ้งโซดาสามารถทำปฏิกิริยากับกรดไขมันและเกลือจากคราบสกปรกต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของกลิ่นอับได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้เบคกิ้งโซดายังมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของการเกิดกลิ่นอับอีกด้วย รวมถึงเป็นวิธีกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนที่ปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมและมนุษย์ เพราะไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือมีฤทธิ์รุนแรงเกินไป จึงเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับทุกคน สามารถใช้ขจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลถึงผลกระทบใด ๆ - น้ำส้มสายชูผสมน้ำ
น้ำส้มสายชูมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ที่สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรีย ยับยั้งเชื้อรา รวมถึงกำจัดกลิ่นได้ดี โดยผสมน้ำส้มสายชู 1 ถ้วย ผสมกับน้ำอุ่น 3 ถ้วย แล้วนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ไปแช่ในน้ำที่ผสมไว้ประมาณ 30 นาที เพื่อให้กรดอะซิติกได้ทำปฏิกิริยากับคราบสกปรกและกลิ่นอับบนผืนผ้าของร่ม ก่อนล้างออกด้วยน้ำสะอาดอีก 1 รอบ แล้วนำไปตากแดดให้แห้งสนิท
โดยน้ำส้มสายชูเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากมีองค์ประกอบของกรดอะซิติกที่สามารถช่วยฆ่าแบคทีเรียและเชื้อรา ตลอดจนขจัดกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ออกจากผืนผ้าของร่มกันฝนได้ดี เป็นวิธีที่ปลอดภัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษหรือมีฤทธิ์รุนแรง จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีความไวต่อสารเคมี หรือต้องการหลีกเลี่ยงผลกระทบด้านสุขภาพและสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้น้ำส้มสายชูยังเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายตามบ้านเรือนทั่วไป จึงเป็นวิธีที่ประหยัดและสะดวกสบาย อย่างไรก็ตามแม้ว่าน้ำส้มสายชูจะเป็นสารที่มีฤทธิ์อ่อน แต่ก็ไม่ควรละเลยถึงความระมัดระวังเมื่อนำมาใช้งาน ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสโดยเฉพาะกับดวงตาหรือบริเวณผิวหนังที่มีบาดแผล หากเกิดการสัมผัสโดยบังเอิญให้รีบล้างออกด้วยน้ำสะอาดทันที
นอกจากนี้ยังไม่ควรนำสารละลายน้ำส้มสายชูมาใช้กับร่มกันฝนที่ทำจากผ้าสีอ่อนหรือสีพาสเทล เนื่องจากอาจทำให้สีของผ้าซีดจางหรือเปลี่ยนไปได้ - สบู่เหลว
นอกจากเบคกิ้งโซดาและน้ำส้มสายชูแล้ว สบู่เหลวก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่สามารถนำมาใช้กำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากใช้สบู่เหลวชนิดที่มีกลิ่นหอมฟุ้ง จะสามารถช่วยกลบกลิ่นไม่พึงประสงค์และทำให้ผ้าร่มมีกลิ่นหอมสดชื่นหลังการซักล้างได้เป็นอย่างดี โดยขั้นตอนการใช้สบู่เหลวซักล้างร่มกันฝนขนาดใหญ่นั้น เริ่มจากการเลือกใช้สบู่ซักผ้าชนิดเหลวที่ไม่มีส่วนผสมของสารที่มีฤทธิ์รุนแรงเกินไป เพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายที่อาจจะเกิดกับผ้าร่ม จากนั้นนำสบู่เหลวมาละลายในน้ำอุ่นให้เข้ากัน ก่อนแช่ร่มกันฝนขนาดใหญ่ลงไปในสารละลายที่เตรียมไว้ ปล่อยทิ้งไว้สักระยะหนึ่งให้สารซักฟอกได้ซึมซับเข้าไปในเนื้อผ้าอย่างทั่วถึง หลังจากนั้น จึงค่อย ๆ ขัดถูเบา ๆ บริเวณที่สกปรกหรือมีกลิ่นอับ โดยต้องระวังอย่าใช้แรงขัดมากเกินไปเพราะอาจทำให้เนื้อผ้าเสียหายได้ เมื่อขัดถูเสร็จแล้วก็ล้างร่มด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง เพื่อกำจัดตะกอนหรือคราบสารซักฟอกที่อาจจะตกค้างอยู่บนผืนผ้าของร่ม จากนั้นนำร่มไปผึ่งให้แห้งสนิทในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก ซึ่งการผึ่งร่มให้แห้งสนิทนับเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นอับก่อตัวขึ้นใหม่ รวมถึงยังช่วยยืดอายุการใช้งานของร่มให้ยาวนานขึ้นด้วย แม้การใช้สบู่เหลวในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนจะเป็นวิธีที่ได้ผลและปลอดภัย แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการคือ ควรเลือกใช้สบู่เหลวที่มีคุณภาพดี ปราศจากสารเคมีหรือส่วนผสมที่อาจทำให้ผ้าร่มเสียหายได้ รวมทั้งการซักล้างด้วยวิธีการที่เหมาะสม โดยเฉพาะการไม่ใช้แรงขัดถูมากเกินความจำเป็น เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับร่มกันฝนของคุณนั่นเอง - ผึ่งแดด
การนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่ผ่านการใช้งานมาผึ่งแดดให้แห้ง นับเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝน แต่การนำร่มกันฝนขนาดใหญ่ไปผึ่งแดดเพื่อกำจัดกลิ่นอับ จะได้ผลดีก็ต่อเมื่อนำไปผึ่งแดดหลังจากใช้งานเสร็จได้ไม่นานเท่านั้น หากปล่อยให้ร่มมีกลิ่นอับนาน ๆ แม้จะนำไปผึ่งแดด ก็ไม่สามารถกำจัดกลิ่นอับได้ เพราะแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นอับได้เกาะตัวแน่นบนผืนผ้าของร่มแล้ว หากปล่อยให้ร่มกันฝนขนาดใหญ่มีกลิ่นอับนาน ๆ ต้องใช้วิธีการดังข้อ 1 – 3 ในการกำจัดกลิ่นอับบนร่มกันฝนขนาดใหญ่นอกจากการเลือกใช้ร่มให้เหมาะกับการใช้งานแล้ว การดูแลรักษาไม่ให้ร่มมีกลิ่นอับก็สำคัญ โดยเฉพาะร่มขนาดใหญ่ ดังนั้นลองนำวิธีที่ Flamingo Umbrella ไปใช้กันได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่มเกิดกลิ่นอับกวนใจการใช้งานร่มของคุณ
หากคุณสนใจสั่งผลิตร่มกันฝนขนาดใหญ่ที่มีคุณภาพ สามารถสั่งผลิตได้ที่ ฟลามิงโก้ โรงงานผลิตร่มทุกชนิด เรามีบริการผลิตร่ม ทั้งร่มสนาม ร่มพับ ร่มกันฝน ร่มแฟชั่น ร่มสำหรับเด็ก ไปจนถึงร่มกอล์ฟ ร่มสำหรับใช้เป็นของที่ระลึก ร่มงานศพ ฯลฯ
วัสดุที่ใช้ผลิตเป็นวัสดุระดับร่ม Premium เราพร้อมสร้างสรรค์สินค้าที่ได้มาตรฐานและเป็นที่พอใจแก่ลูกค้าด้วยบุคลากรที่เชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ โดยร่มที่เราผลิตจะมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นนำสมัยมีคุณภาพสูง สามารถสั่งผลิตร่มง่าย ๆ เพียงเลือกแบบ สี และขนาดร่ม และรอรับสินค้าได้ภายใน 3 – 7 วัน
สนใจสั่งผลิตร่มกันฝนขนาดใหญ่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Flamingo Umbrella โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย
โทร. 084 361 9978
LINE ID : @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com