Published On: พฤษภาคม 10, 2024Views: 1187

สีของร่มกันแดด มีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่

ร่มกันแดด สีไหนกัน UV ได้ดีที่สุด?

ร่มกันแดด

เข้าสู่ช่วง Summer ทุกทีแสงแดดก็ร้อนแรง แน่นอนสิ่งที่แฝงมาพร้อมกับแสงแดดก็คือ รังสี UV ที่กลายเป็นภัยคุกคามต่อผิวของคุณ หลายคนจึงหันมาพึ่งพาร่มกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากอันตราย แต่คุณเคยสงสัยกันไหมว่า สีของร่มกันแดด มีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่?

บทความนี้ฟลามิงโก้จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจ เรียนรู้กลไกการป้องกัน UV ของร่มกันแดด เปรียบเทียบประสิทธิภาพของร่มสีต่าง ๆ และแนะนำวิธีเลือกร่มกัน UV ที่มีประสิทธิภาพ ไปอ่านกันได้เลย

ไขกลไกการป้องกันแสง UV ของร่มกันแดด

อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่าร่มกันแดดสามารถป้องกัน UV มากกว่าครีมกันแดด แล้วคุณเคยสงสัยกันไหมว่าแล้วร่มกันแดดมีกลไกอะไรเป็นพิเศษถึงสามารถทำเช่นนั้นได้ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 กลไกหลักนี้

  • การสะท้อนแสงแดด
    ร่มกันแดด UV ส่วนใหญ่แล้วได้เคลือบสารกัน UV บนผ้าร่มเอาไว้ ซึ่งสารเคลือบนี้มีอนุภาคขนาดเล็ก ทำหน้าที่เหมือนกระจก ทำให้สะท้อนแสงแดดออกไป อธิบายง่าย ๆ ได้ว่าเมื่อแสงแดดกระทบกับสารเคลือบ UV แสงจะถูกสะท้อนกลับออกไป ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV ทะลุผ่านผ้าร่มได้ แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพการสะท้อนแสงแดด จะขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบ UV สีของร่ม และความหนาของผ้าร่มนั่นเอง
  • การดูดซับแสงแดด
    กลไกการดูดซับแสงแดดของร่มกันแดด ทำงานโดยใช้สารดูดซับ UV ผสมในเนื้อผ้าร่ม สารเหล่านี้ทำหน้าที่ดูดซับพลังงานแสงแดด โดยเฉพาะรังสียูวี โดยเราจะได้ยินในโฆษณาบ่อย ๆ กับประโยคที่ว่า ‘preventing them from reaching your skin’ นั่นคือการดูดซับแสงแดดนั่นเอง
    ทั้งนี้ประสิทธิภาพการดูดซับ UV ของร่มกันแดด ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสารดูดซับ UV ที่ใช้ปริมาณของสารดูดซับ UV ที่ผสมในเนื้อผ้า และสีของผ้าร่ม (ผ้าสีเข้มดูดซับ UV ได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน) เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับวัสดุ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการเคลือบสารกัน UV ในร่มกันแดดโดยหลัก ๆ แล้วจะมีสารประกอบไทเทเนียมไดออกไซด์ (TiO2) กับสารประกอบสังกะสีออกไซด์ (ZnO) รวมไปถึงพวกซิลิโคน โพลียูรีเทน และเทคโนโลยี UPF (Ultraviolet Protection Factor)

ความแตกต่างระหว่างร่มกันแดดทั่วไป กับร่มกัน UV จะเห็นได้ชัดตรงที่การป้องกัน UV กับผ้าร่ม โดยร่มกันแดดทั่วไปจะมีผ้าร่มที่บางกว่า และเหมาะสำหรับกันฝนเท่านั้น

ร่มกันแดด สีไหนป้องกัน UV ได้ดีที่สุด

ยังเป็นคำถามคาใจอยู่สำหรับสีของร่มกันแดด มีผลต่อประสิทธิภาพการป้องกัน UV หรือไม่ แบบไหนดูดซับแสงแดดได้ดีกว่า ป้องกัน UV ได้มากกว่า และแบบไหนเย็นสบายมากกว่า เรารวบรวมมาเป็นข้อมูลให้คุณตัดสินใจก่อนเลือกซื้อร่มกันแดดสักคันมาใช้กันแล้ว

  • สีเข้ม ดูดซับแสงแดดได้ดีกว่าสีอ่อน
    ร่มกันแดดตระกูลสีเข้ม เช่น ดำ น้ำเงิน กรมท่า เขียว สามารถดูดซับแสงแดด (รวมถึงรังสี UV) ได้ดีกว่าตระกูลสีอ่อน โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ส่งเสริมว่าตระกูลสีเข้มดีกว่าจริง ๆ เช่น “The Effect of Umbrella Color on Ultraviolet Radiation Protection” พบว่า ร่มสีดำ ป้องกันรังสี UV ได้มากกว่าร่มสีขาวถึง 98% และยังพบอีกว่าร่มสีเข้ม ป้องกันรังสี UV ได้มากกว่าร่มสีอ่อน 20-30%
  • สีอ่อน สะท้อนแสงแดด แต่ไม่ป้องกัน UV
    สีอ่อน จำพวกสีขาว ครีม ทำได้แค่สะท้อนแสงแดด (รวมถึงรังสี UV) ออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกันรังสี UV แต่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เท่านั้น

กล่าวโดยสรุปแล้ว ควรเลือกร่มที่มีการเคลือบสารกัน UV และสีของร่มกันแดดเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการป้องกัน UV ได้แก่ ความหนาของผ้าร่ม การออกแบบร่ม และสภาพการใช้งานทั้งหมด

หลากหลายปัจจัยที่ไม่ใช่แค่สี ล้วนมีผลต่อร่มกันแดดในการป้องกัน UV

ร่มกันแดดเป็นไอเท็มสำคัญ ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดก็จริง แต่ต้องเข้าใจว่าร่มกันแดดทุกคัน ไม่ได้ป้องกัน UV ได้เหมือนกัน เบื้องต้นเลยก็คือร่มกันแดดที่ดีควรมี UPF rating of 50+ เท่านั้น หากตรงนี้ผ่าน ปัจจัยอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่สำหรับใครที่เน้นชัวร์ เราก็ได้รวบรวมปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกใช้ร่มกันแดดมาให้พิจารณากัน ดังนี้

  • ประเภทของผ้าร่ม : ผ้าร่มที่ทอแน่น ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มที่ทอหลวม และผ้าร่มที่มีสารเคลือบกัน UV ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มที่ไม่มีสารเคลือบแน่นอน
  • ความหนาของผ้าร่ม : ผ้าร่มหนา ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มบาง
  • การออกแบบร่ม : ร่มกันแดดที่มีขนาดใหญ่ ป้องกัน UV ได้ดีกว่าร่มที่มีขนาดเล็ก เพราะร่มจะมีโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานกว่าร่มกันแดดคันเล็ก
  • สภาพการใช้งาน : อะไรที่เก่ากว่าย่อมเสื่อมสภาพมากกว่า เช่นเดียวกันกับร่มกันแดดคันเก่า มีประสิทธิภาพการป้องกัน UV ด้อยลง เช่นเดียวกันกับร่มที่เปียกน้ำ ประสิทธิภาพการป้องกัน UV ด้อยลงเหมือนกัน

สรุปแล้วสีของร่มกันแดดมีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่? คำตอบคือ มีผลบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ส่วนปัจจัยหลักที่ทำให้ร่มกัน UV ได้ดี คือการเคลือบสารกัน UV บนเนื้อผ้าร่ม และร่มที่เคลือบสาร UV ดี ๆ จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 98 – 99% โดยไม่ต้องคำนึงถึงสีอีกต่อไป

หากจะมีคำแนะนำดี ๆ ก็มีแค่ให้คุณเลือกร่มกันแดดจากฟลามิงโก้ ร่มกันแดดที่มากกว่าแค่สวย UPF 50+ ป้องกัน UV ได้มากกว่า 98% ผ้าร่มหนา ทนทาน โครงสร้างแข็งแรง ใช้งานได้นาน ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ฟลามิงโก้มีร่มกันแดดที่ปกป้องคุณจากแสงแดดได้ ทุกแบบ!

 

สนใจร่มกันแดด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Flamingo Umbrella
โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย

โทร. 084 361 9978
LINE ID : @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com

Published On: พฤษภาคม 10, 2024

สีของร่มกันแดด มีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่

ร่มกันแดด สีไหนกัน UV ได้ดีที่สุด?

ร่มกันแดด

เข้าสู่ช่วง Summer ทุกทีแสงแดดก็ร้อนแรง แน่นอนสิ่งที่แฝงมาพร้อมกับแสงแดดก็คือ รังสี UV ที่กลายเป็นภัยคุกคามต่อผิวของคุณ หลายคนจึงหันมาพึ่งพาร่มกันแดดเพื่อป้องกันผิวจากอันตราย แต่คุณเคยสงสัยกันไหมว่า สีของร่มกันแดด มีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่?

บทความนี้ฟลามิงโก้จะพาทุกคนไปไขข้อข้องใจ เรียนรู้กลไกการป้องกัน UV ของร่มกันแดด เปรียบเทียบประสิทธิภาพของร่มสีต่าง ๆ และแนะนำวิธีเลือกร่มกัน UV ที่มีประสิทธิภาพ ไปอ่านกันได้เลย

ไขกลไกการป้องกันแสง UV ของร่มกันแดด

อย่างที่เราทุกคนทราบกันดีว่าร่มกันแดดสามารถป้องกัน UV มากกว่าครีมกันแดด แล้วคุณเคยสงสัยกันไหมว่าแล้วร่มกันแดดมีกลไกอะไรเป็นพิเศษถึงสามารถทำเช่นนั้นได้ โดยหลัก ๆ แล้วจะมีอยู่ 2 กลไกหลักนี้

  • การสะท้อนแสงแดด
    ร่มกันแดด UV ส่วนใหญ่แล้วได้เคลือบสารกัน UV บนผ้าร่มเอาไว้ ซึ่งสารเคลือบนี้มีอนุภาคขนาดเล็ก ทำหน้าที่เหมือนกระจก ทำให้สะท้อนแสงแดดออกไป อธิบายง่าย ๆ ได้ว่าเมื่อแสงแดดกระทบกับสารเคลือบ UV แสงจะถูกสะท้อนกลับออกไป ซึ่งช่วยป้องกันไม่ให้รังสี UV ทะลุผ่านผ้าร่มได้ แต่ทั้งนี้ประสิทธิภาพการสะท้อนแสงแดด จะขึ้นอยู่กับชนิดของสารเคลือบ UV สีของร่ม และความหนาของผ้าร่มนั่นเอง
  • การดูดซับแสงแดด
    กลไกการดูดซับแสงแดดของร่มกันแดด ทำงานโดยใช้สารดูดซับ UV ผสมในเนื้อผ้าร่ม สารเหล่านี้ทำหน้าที่ดูดซับพลังงานแสงแดด โดยเฉพาะรังสียูวี โดยเราจะได้ยินในโฆษณาบ่อย ๆ กับประโยคที่ว่า ‘preventing them from reaching your skin’ นั่นคือการดูดซับแสงแดดนั่นเอง
    ทั้งนี้ประสิทธิภาพการดูดซับ UV ของร่มกันแดด ก็จะขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น ชนิดของสารดูดซับ UV ที่ใช้ปริมาณของสารดูดซับ UV ที่ผสมในเนื้อผ้า และสีของผ้าร่ม (ผ้าสีเข้มดูดซับ UV ได้ดีกว่าผ้าสีอ่อน) เป็นต้น

นอกจากนั้นแล้ว สำหรับวัสดุ และเทคโนโลยีที่ใช้ในการเคลือบสารกัน UV ในร่มกันแดดโดยหลัก ๆ แล้วจะมีสารประกอบไทเทเนียมไดออกไซด์ (TiO2) กับสารประกอบสังกะสีออกไซด์ (ZnO) รวมไปถึงพวกซิลิโคน โพลียูรีเทน และเทคโนโลยี UPF (Ultraviolet Protection Factor)

ความแตกต่างระหว่างร่มกันแดดทั่วไป กับร่มกัน UV จะเห็นได้ชัดตรงที่การป้องกัน UV กับผ้าร่ม โดยร่มกันแดดทั่วไปจะมีผ้าร่มที่บางกว่า และเหมาะสำหรับกันฝนเท่านั้น

ร่มกันแดด สีไหนป้องกัน UV ได้ดีที่สุด

ยังเป็นคำถามคาใจอยู่สำหรับสีของร่มกันแดด มีผลต่อประสิทธิภาพการป้องกัน UV หรือไม่ แบบไหนดูดซับแสงแดดได้ดีกว่า ป้องกัน UV ได้มากกว่า และแบบไหนเย็นสบายมากกว่า เรารวบรวมมาเป็นข้อมูลให้คุณตัดสินใจก่อนเลือกซื้อร่มกันแดดสักคันมาใช้กันแล้ว

  • สีเข้ม ดูดซับแสงแดดได้ดีกว่าสีอ่อน
    ร่มกันแดดตระกูลสีเข้ม เช่น ดำ น้ำเงิน กรมท่า เขียว สามารถดูดซับแสงแดด (รวมถึงรังสี UV) ได้ดีกว่าตระกูลสีอ่อน โดยมีงานวิจัยหลายชิ้นที่ส่งเสริมว่าตระกูลสีเข้มดีกว่าจริง ๆ เช่น “The Effect of Umbrella Color on Ultraviolet Radiation Protection” พบว่า ร่มสีดำ ป้องกันรังสี UV ได้มากกว่าร่มสีขาวถึง 98% และยังพบอีกว่าร่มสีเข้ม ป้องกันรังสี UV ได้มากกว่าร่มสีอ่อน 20-30%
  • สีอ่อน สะท้อนแสงแดด แต่ไม่ป้องกัน UV
    สีอ่อน จำพวกสีขาว ครีม ทำได้แค่สะท้อนแสงแดด (รวมถึงรังสี UV) ออกไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ไม่ได้ป้องกันรังสี UV แต่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดดได้เท่านั้น

กล่าวโดยสรุปแล้ว ควรเลือกร่มที่มีการเคลือบสารกัน UV และสีของร่มกันแดดเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งเท่านั้น ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ส่งผลต่อการป้องกัน UV ได้แก่ ความหนาของผ้าร่ม การออกแบบร่ม และสภาพการใช้งานทั้งหมด

หลากหลายปัจจัยที่ไม่ใช่แค่สี ล้วนมีผลต่อร่มกันแดดในการป้องกัน UV

ร่มกันแดดเป็นไอเท็มสำคัญ ช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดก็จริง แต่ต้องเข้าใจว่าร่มกันแดดทุกคัน ไม่ได้ป้องกัน UV ได้เหมือนกัน เบื้องต้นเลยก็คือร่มกันแดดที่ดีควรมี UPF rating of 50+ เท่านั้น หากตรงนี้ผ่าน ปัจจัยอื่น ๆ ก็ไม่จำเป็นอีกต่อไป แต่สำหรับใครที่เน้นชัวร์ เราก็ได้รวบรวมปัจจัยอื่น ๆ ในการเลือกใช้ร่มกันแดดมาให้พิจารณากัน ดังนี้

  • ประเภทของผ้าร่ม : ผ้าร่มที่ทอแน่น ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มที่ทอหลวม และผ้าร่มที่มีสารเคลือบกัน UV ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มที่ไม่มีสารเคลือบแน่นอน
  • ความหนาของผ้าร่ม : ผ้าร่มหนา ป้องกัน UV ได้ดีกว่าผ้าร่มบาง
  • การออกแบบร่ม : ร่มกันแดดที่มีขนาดใหญ่ ป้องกัน UV ได้ดีกว่าร่มที่มีขนาดเล็ก เพราะร่มจะมีโครงสร้างแข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้นานกว่าร่มกันแดดคันเล็ก
  • สภาพการใช้งาน : อะไรที่เก่ากว่าย่อมเสื่อมสภาพมากกว่า เช่นเดียวกันกับร่มกันแดดคันเก่า มีประสิทธิภาพการป้องกัน UV ด้อยลง เช่นเดียวกันกับร่มที่เปียกน้ำ ประสิทธิภาพการป้องกัน UV ด้อยลงเหมือนกัน

สรุปแล้วสีของร่มกันแดดมีผลต่อการป้องกัน UV หรือไม่? คำตอบคือ มีผลบ้าง แต่ไม่ใช่ปัจจัยหลัก ส่วนปัจจัยหลักที่ทำให้ร่มกัน UV ได้ดี คือการเคลือบสารกัน UV บนเนื้อผ้าร่ม และร่มที่เคลือบสาร UV ดี ๆ จะสามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 98 – 99% โดยไม่ต้องคำนึงถึงสีอีกต่อไป

หากจะมีคำแนะนำดี ๆ ก็มีแค่ให้คุณเลือกร่มกันแดดจากฟลามิงโก้ ร่มกันแดดที่มากกว่าแค่สวย UPF 50+ ป้องกัน UV ได้มากกว่า 98% ผ้าร่มหนา ทนทาน โครงสร้างแข็งแรง ใช้งานได้นาน ดีไซน์สวยงามทันสมัย มีหลากหลายรูปแบบให้เลือก ฟลามิงโก้มีร่มกันแดดที่ปกป้องคุณจากแสงแดดได้ ทุกแบบ!

 

สนใจร่มกันแดด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Flamingo Umbrella
โรงงานผลิตร่ม อันดับ 1 ในประเทศไทย

โทร. 084 361 9978
LINE ID : @flamingoumbrella
Facebook : flamingoumbrella
E-mail : mail@flamingoumbrella.com